ฟันเหลือง เกิดจากอะไรได้บ้าง ทำอย่างไรดี มาดูสาเหตุ และวิธีการดูแลรักษาฟันกัน

ฟันเหลือง เกิดจากอะไร

การมีรอยยิ้มที่สดใส ฟันที่ สีขาวสว่าง ดูสะอาด นับเป็นบุคลิกภาพที่ดูดี ใครๆ ก็อยากจะยิ้มฟันขาว สวยอย่างมั่นใจ  นอกจากหน้าตา ผิวพรรณ และรูปร่าง เป็นการช่วยเสริม สร้างความมั่นใจ ต่อการพบปะผู้คน แต่หลายครั้งก็ดูเหมือนว่า เราจะหลีกเลี่ยงปัญหาฟันเหลืองได้ยาก นั่นเป็นเพราะ พฤติกรรมการกินอาหารของคนเหล่านั้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้ที่มาของปัญหาฟันเหลืองกัน ว่าเกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลรักษาให้ฟันเรากลับมาขาวเหมือนเดิม

คราบเหลืองที่ฟัน คืออะไร

คราบเหลืองที่ฟัน คือ คราบ plaque หรือคราบขี้ฟัน เกิดจากการแปรงฟันที่ไม่สะอาด ทำให้ขี้ฟันถับถมกันกลายเป็นคราบ plaque ติดแน่นที่ฟัน และมีสีเหลือง

เฉดสีของฟัน

เราสามารถ แบ่งเฉดสีของฟัน แบ่งสีฟัน ออกเป็น 4 เฉดหลัก ได้แก่

  • A (น้ำตาลอมแดง)
  • B (เหลืองอมแดง)
  • C (เทา)
  • D (เทาอมแดง)

A title

Image Box text

ในแต่ละเฉดก็ยังมีระดับความเข้มที่ต่างกัน ซึ่งสามารถเทียบสีฟันของตนเองได้ โดยการใช้ shade guide ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณตัดสินใจว่า คุณต้องการให้ฟันขาวขนาดไหน ด้วยการักษาทางทันตกรรม เช่น ขัดฟัน , ฟอกสีฟัน , วีเนียร์ ต่อไป

ฟันเหลือง เกิดจากอะไร

สีฟันคนเรา โดยปกติแล้ว จะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่บางคนอาจจะมีฟันเหลืองคล้ำ หรือดำ จนมองดูแล้วไม่สวยงาม ซึ่งสีของฟันที่แตกต่างกันออก ไปในแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งลักษณะการเปลี่ยนของสีฟันแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

A title

Image Box text

1. การมีคราบสี เกาะที่ผิวฟัน

ฟันเหลืองจากการมีคราบสีมาเกาะที่ผิวฟัน คือ การเกิดคราบบนชั้นเคลือบฟัน มักมีสาเหตุมาจาก

  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ รวมถึงการอมลูกอม หรือยาอมบางชนิด
  • การสูบบุหรี่ ร่วมกับการแปรงฟันไม่สะอาดพอ ทำให้คราบอาหาร แบคทีเรีย และหินปูน เกาะติดสะสมตามซอกฟัน กระทั่งเห็นเป็นสีเหลือง น้ำตาล หรือดำ สามารถรักษาด้วยการขูดหินปูน
  • ฟันผุ ซึ่งมักพบว่ามีสีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล โดยเฉพาะฟันที่อยู่ด้านหน้าทำให้มองเห็นได้ชัดเจน ควรรักษาด้วยการอุดฟัน
  • การมีหินปูน ซึ่งหินปูนจะมาสะสม ที่ผิวฟัน บริเวณใกล้คอฟัน มีสีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ
  • การกัดฟัน การนอนกัดฟันมักเกิดขึ้นขณะหลับ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเครียดการกัดฟัน ถือเป็นอันตรายต่อเคลือบฟัน และอาจทำให้ฟันแตก และมีสีเหลืองได้

2. การเปลี่ยนแปลงสี ในโครงสร้างของฟัน

การเปลี่ยนสีในโครงสร้างของฟัน ทำให้เกิดสีฟันเหลือง คือ เกิดคราบภายในโครงสร้างของฟันในส่วนที่เป็นเนื้อฟัน ซึ่งไม่สามารถทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันแบบปกติได้ แม้ว่าจะใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิงก็ตาม มีสาเหตุคือ ได้แก่

  1. เกิดจากการรับประทานยา โดยเฉพาะยาเตตร้าไซคลิน ในช่วงอายุที่กำลังสร้างฟัน การได้รับปริมาณฟลูออไรด์ ที่สูงเกินจากระดับที่เหมาะสม สารดังกล่าวจะเข้าไปรบกวนกระบวนการสร้างฟัน จนทําให้ฟันไม่แข็งแรง ผุกร่อนง่าย และทําให้ฟันเหลือง เกิดคราบสีขาวขุ่น หรือที่เรียกว่าฟันตกกระ (dental fluorosis) ได้
  2. เกิดจากอุบัติเหตุ เช่นกัน ตกจากที่สูง หรือถูกกระแทกแรงๆ ในวัยเด็ก อาจจะทําให้เส้นประสาทที่เกี่ยวกับการสร้างฟัน ซึ่งอยู่ในโพรงประสาทฟัน (pulp) ได้รับความเสียหาย จนทําให้เนื้อฟันที่กําลังพัฒนาเกิดการ เปลี่ยนสีได้เช่นกัน
  3. เกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งกรณีหนึ่งที่เลี่ยงได้ยาก เนื้อฟันตามธรรมชาติของคุณ และคนในครอบครัวอาจจะฟันขาว ฟันหลืองน้อย หรือฟันเหลืองมาก ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ แต่หากมีสีคล้ำ หรือเหลืองมากๆ อยากฟันขาวก็สามารถเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาปรับสีฟันให้ขาว สว่างขึ้นได้ ดูสะอาดขึ้นได้ อย่างเช่น การทำฟอกสีฟัน
  4. เกิดจากโรคบางชนิด สามารถทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ เช่นโรค เกี่ยวกับถุงน้ำดี รวมไปถึงการตั้งครรภ์ของคุณแม่ ก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันเหลืองได้เช่นกัน
  5. เกิดจากการจัดฟัน สามารถเกิดขึ้นได้ จากอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ที่ยึดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ฯลฯ ซึ่งวัสดุเหล่านี้ จะทำให้สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้

ฟันเหลืองจาก ชา กาแฟ ต้องสะสมนานแค่ไหน

เนื่องจากชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรด เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว ทำให้ไปกัดกร่อนสารเคลือบฟัน นอกจากนี้ใน ชา กาแฟ ยังมีสารโครโมเจน หรือสารที่ก่อให้เกิดสีในปริมาณสูง อาจมีผลทำให้สีฟันเปลีนยนแปลงไปจากเดิมได้ ทำให้เกิดคราบที่ฟันของเรา จนฟันเหลืองได้ หากไม่สามารถงดการดื่มกาแฟเป็นประจำได้ การดื่มน้ำเปล่าสามารถช่วยชะล้างคราบ หรือกรดที่อยู่บนฟันออก รวมถึงใช้หลอดดื่ม ชา กาแฟ จะช่วยให้ฟันสัมผัสกับ ชา กาแฟ น้อยลงเช่นกัน

ไม่เพียงแต่ ชา กาแฟ เท่านั้น ที่จะทำให้สีฟันเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เครื่องดื่มสีเข้ม หลายชนิด เช่น ไวน์แดง โซดา น้ำผลไม้ เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ การรับประทานอาหารร้อน และเย็นจัดก็ส่งผลให้รูบนชั้นเคลือบฟันเปิดปิด บ่อยๆ ทําให้เม็ดสีจากอาหาร เข้าไปอยู่ในชั้นเคลือบฟัน จนทําให้ฟันเปลี่ยนสีได้เช่นกัน

A title

Image Box text

การสูบบุหรี่ ก็ทำให้ฟันเหลืองได้

กำมะถันที่เป็นสารที่อยู่ในบุหรี่ เมื่อสูบแล้ว จะสะสมอยู่บนบริเวณผิวฟัน จะเข้าไปในชั้นเนื้อฟันทำให้ ฟันเหลือง หรือเปลี่ยนสีเป็นสีขุ่น อีกทั้งในบุหรี่มีสารจําพวกทาร์ หรือน้ำมันดินเป็นองค์ประกอบ ทาร์ยังทำให้เกิด คราบเหลืองที่ฟัน ได้ด้วย ประกอบกับหลังสูบบุหรี่ ดูแลรักษาสุขภาพช่องปากไม่ดี เช่นการแปรงฟัน หรือบ้วนปาก หรือแปรงฟันไม่ถูกวิธี ทำให้คราบที่ติดอยู่ที่ฟันถูกกำจัดไม่หมด ก็จะเป็นการสะสมคราบเกาะติดอยู่ที่ผิวฟันมากขึ้น

วิธีทำแก้ฟันเหลือง ทำให้ฟันขาวขึ้น

A title

Image Box text

1. แปรงฟันอย่างถูกวิธี

วิธีแก้ฟันเหลือง เริ่มจากการดูแลสุขภาพของช่องปาก และฟันอย่างถูกวิธี โดยแปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน (เช้าและก่อนนอน) หรือแปรงฟันหลังการรับประทานอาหารทุกมื้อ โดยการแปรงฟันแต่ละครั้ง ควรใช้ระยะเวลาในการแปรงฟันนานประมาณ 2 นาที สามารถใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปากร่วมด้วยได้ และเมื่อแปรงฟันแล้ว 2 ชั่วโมงควรงดรับประทานอาหาร งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเหลืองได้ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ

การเลือกยาสีฟันเพื่อฟันขาวสวย

  • ยาสีฟันต้องมีส่วนผสมของสารฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารป้องกันฟันผุ โดยปกติฟลูออไรด์ ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันนั้น มีปริมาณน้อย จึงไม่ผลเสียต่อร่างกาย หรือฟัน บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลกับปริมาณฟลูออไรด์ที่มากเกิน
  • เลือกยาสีฟันที่มีเนื้อละเอียด ไม่มีเนื้อหยาบ ผงขัด หรือสัมผัสได้ว่ามีเม็ดเล็กๆ ผสมอยู่ เพราะหากคุณเลือกยาสีฟันที่มีลักษณะเนื้อหยาบเกินไป จะทำให้เกิดการทำลายผิวเคลือบฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้ แนะนำเป็นแบบเนื้อครีม หรือเนื้อเจลจะดีกว่า
  • เลือกยาสีฟันให้เหมาะตามสุขภาพช่องปาก และฟัน ในปัจจุบันมียาสีฟันในท้องตลาดที่ได้ถูกออกแบบมาอย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อตามความต้องการ เช่น ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน, ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว, ยาสีฟันที่ช่วยป้องกันฟันผุ, ยาสีฟันที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในช่องปาก เป็นต้น
  • เลือกยาสีฟันที่มีกลิ่น และรสชาติที่เราชอบ จะได้ไม่ต้องฝืนกับรสชาติ หรือกลิ่นที่ไม่ชอบ ทำให้เราขาดอรรถรสในการแปรงฟัน

2. การขูดหินปูน

การขูดหินปูน และการขัดฟัน คือ การกำจัดคราบต่างๆ เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มมีสี คราบ plaque จากการแปรงฟันไม่สะอาด คราบจากการสูบบุหรี่ ที่เกาะบริเวณผิวฟันให้ออกไป จึงควรนัดมากำจัดคราบดังกล่าวทุก 3-6 เดือน จึงต้องทำการกำจัดหินปูนเหล่านี้ก่อน แล้วค่อยเลือกวิธีทำให้ฟันขาว ซึ่งมีให้เราเลือกหลากหลายวิธี ทั้งการฟอกสีฟัน การทำเลเซอร์ฟันขาว การใช้เจลฟอกฟันขาว การทำเคลือบผิวฟันเทียม (วีเนียร์) หรือการครอบฟันเป็นต้น

3. ฟอกฟันขาว ตัวช่วยเสริมบุคลิกภาพ

วิธีที่ได้รับความนิยม คือ การฟอกสีฟัน ซึ่งการฟอกสีฟันในปัจจุบัน คือการฟอกฟันทั้งปาก เพราะทำได้สะดวก และเห็นผลรวดเร็ว

การฟอกสีฟัน มีอยู่ 2 วิธี คือ

  • ทำโดยทันตแพทย์ โดยใช้สารฟอกสี ซึ่งส่วนใหญ่ คือ สารประเภท Peroxide ที่มีความเข้มข้น 30-35 % ระยะเวลาในการทำในแต่ละครั้ง คือประมาณ 30 นาที – 1 ชั่ว โมง
  • ฟอกสีฟันด้วยเองที่บ้าน โดยทันตแพทย์ จะเตรียมอุปกรณ์ให้ ทำการพิมพ์ปากเพื่อให้ได้ ถาดฟอกสีฟันขาวที่แนบสนิทกับตัวฟัน จากนั้นก็สามารถนำกลับไปทำที่บ้าน โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ของทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ มีความแตกต่างไปจากการทำที่โรงพยาบาลหรือคลินิก คือ มีความเข้ม ข้นน้อยกว่า หรือประมาณ 2-10% จากสารฟอกฟันขาวที่ทำโดยทัตแพทย์

การฟอกสีฟันอาจเป็นหนึ่งในการรักษา เพื่อเปลี่ยนคราบสีเหลืองภายในโครงสร้างของฟันให้มีสีขาวมากขึ้น แต่การฟอกสีฟันมีโอกาสกลับคืนได้ อาจต้องแนะนำมาฟอกสีฟันทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

4. การทำวีเนียร์ เคลือบผิวฟัน

ถ้าไม่อยากอยากทำการักษาฟอกสีฟันทุกๆ ปี การรักษาด้วยวีเนียร์ สามารถตอบโจทย์ปัญหาฟันเหลืองได้เป็นอย่างดี และกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ข้อดีของการมีฟันขาว

  • ฟันขาวมีเสน่ห์ ช่วยให้รอยยิ้มดูน่าสนใจ บุคลิกภาพดี
  • ผู้ที่มีฟันขาวจะดูสวยขึ้น สร้างความประทับใจแรกพบ คนที่มีฟันเหลืองอาจจะไม่มั่นใจในรอยยิ้มมากกว่าคนที่ฟันขาว

สรุป

สีของฟันของคุณบ่งบอกถึงความใส่ใจต่อสุขภาพช่องปากของคุณ การเก็บรายละเอียดเหล่านี้ นอกจากทำให้คุณดูเป็นคนที่มีความใส่ใจดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้ว คุณยังเป็นคนไม่ปล่อยให้โอกาสที่ดีหลุดลอยไป พร้อมทั้งยังเป็นการสะท้อนถึงความใส่ใจในสุขภาพ รวมถึงอาหาร หรือเครื่องดื่มที่คุณกิน ไม่ว่าคุณจะดูแลสุขภาพปาก และฟันของคุณอย่างไร ข้อมูลของฟันเหลืองที่เราได้กล่าวมา จะช่วยให้รักษา และแก้ปัญหาฟันเหลืองของคุณให้ดีขึ้น