การฟอกสีฟัน คืออะไร

การฟอกสีฟัน เป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มความขาวให้กับฟัน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะทำที่คลินิก โดยทันตแพทย์ด้วยระบบไฟ LED ชนิดพิเศษ นิยมเรียกว่าไฟ cool light หรือถ้าจะฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อฟื้นฟูสีฟันเหลืองจากคราบ ชา กาแฟ หรือบุหรี่ ให้กลับมาขาวสวย และช่วยให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มที่สดใสมากกว่าเดิม

การฟอกสีฟัน จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีของหลายๆ คน ที่อยากมีฟันขาวสวย แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่นึกอยากจะฟอกฟันขาวก็ทำได้เลย อย่างแรกก็คือ การศึกษาหาข้อมูลเสียก่อน หรือพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แล้วขอคำปรึกษา เพื่อความปลอดภัย และให้ได้ฟันขาวอย่างมีสุขภาพดี

การฟอกสีฟัน มีประโยชน์อย่างไร

  • สามารถทำได้ในบุคคลทั่วไป
  • แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆ บนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น
  • สามารถปรับปรุงรอยยิ้ม ให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจ และช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น

ประเภทของการฟอกสีฟัน

  1. In-office Power Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ร่วมกับ Cool Light LED หรือเลเซอร์ ใช้ระยะเวลาไม่นาน และเห็นผลทันทีหลังทำ
  2. At-home Bleaching การฟอกสีฟันที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่จะต้องมาพบทันตแพทย์ก่อนในครั้งแรก ราคาถูก ใช้ระเวลานาน และต้องมีวินัยหมั่นทำบ่อยๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
  3. In-office assisted Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ร่วมกับการฟอกสีฟันเองที่บ้าน ใช้ในกรณีที่ฟันมีสีเข้มมาก
  4. Over-the-counter Bleaching การฟอกสีฟันที่สามารถทำได้เอง เช่น แถบฟอกสีฟัน ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว น้ำยาบ้วนปากฟอกฟันขาว ที่มีวางจำหน่ายตามร้านค้า และร้านขายยาทั่วไป
  5. Internal Bleaching การฟอกสีฟันเฉพาะซี่ ที่ต้องทำโดยทันตแพทย์ เนื่องจากฟันตาย ซึ่งมักมีการเปลี่ยนสีของฟันเฉพาะซี่

ฟอกสีฟันมีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร

การฟอกสีฟัน ที่เป็นที่นิยมด้วยกัน 3 รูปแบบคือ

  1. การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light เป็นการใช้แสง LED ฉายลงบนฟันที่ทาน้ำยาฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว แสงจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน ให้เม็ด  สีหนาทึบของฟันแตกตัว ทำให้ฟันดูขาวกระจ่างขึ้น
  2. การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ เป็นการใช้แสงเลเซอร์ไดโอด มากระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันให้แตกตัว ช่วยให้แทรกซึมเข้าไปในผิวฟันได้ดีขึ้น ทำให้ขจัดคราบ และเม็ดสีบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็ว
  3. การฟอกสีฟันแบบ Zoom เป็นการใช้พลังงานแสงสีฟ้าชนิดเข้มข้น มากระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน ทำให้สารในน้ำยาฟอกสีฟัน แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวฟัน และกำจัดคราบ หรือเม็ดสีบนเนื้อฟันได้ดีขึ้น โดยไม่ทำลายโครงสร้างของฟัน

การฟอกสีฟัน เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่ต้องใช้รอยยิ้ม พูดคุย และติดต่อประสานงานกับผู้อื่น
  2. ผู้ที่ชอบดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  3. ผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด
  4. ผู้ที่มีเนื้อฟันสีเหลืองจากยาปฏิชีวนะ

ใครบ้างไม่ควรฟอกสีฟัน

  1. หญิงกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  2. มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะโพรงประสาทมีการเจริญเติบโต อาจทำให้มีการระคายเคือง
  3. ผู้ป่วยโรคเหงือก
  4. ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน ฟันผุ หรืออุดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทำการฟอกสีฟัน
  5. ผู้ที่มีปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก ควรพบทันตแพทย์ก่อนทำการฟอกสีฟัน

ค่าบริการ ในการฟอกสีฟัน

ฟอกสีฟันที่บ้านระบบ ZOOM

3,900 บาท / ครั้ง

ฟอกสีฟันที่คลินิกระบบ ZOOM

12,000 บาท / ครั้ง

ขั้นตอนการฟอกสีฟัน

1. เตรียมผิวฟัน

  • ก่อนฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะวัดระดับสีฟันก่อนการรักษา
  • เตรียมผิวฟัน ได้แก่ การขูดหินปูน (ในกรณีที่มีหินปูน) และขัดฟัน
  • ใส่ที่กั้นริมฝีปาก และใส่ที่ปกป้องเหงือก

2. ฟอกสีฟัน

  • ทันตแพทย์จะทำการทาน้ำยาฟอกสีฟัน และใช้เครื่อง Cool light LED โดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

ทันตแพทย์ผู้ดำเนินการรักษา

A title

Image Box text

ทพญ.ปรมุนี จิตรีขันธ์

ประวัติการศึกษา

  • ทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2551
  • ทันตกรรมรากเทียม สมาคมรากเทียมแห่งประเทศไทย ปี 2559
  • Invisalign Provider

ประวัติการทำงาน

เจ้าของคลินิก 2 สาขา

  • คลินิกทันตกรรมบีซีดีซี สาขา บิ๊กซี สุขาภิบาล 5
  • คลินิกทันตกรรมบีซีดีซี สาขา เพิ่มสิน 64

Big Care Dental Clinic

คลินิกทันตกรรมบีซีดีซี ดีอย่างไร

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ขณะที่ฟอกสีฟัน หรือหลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ แต่อาการเสียวฟัน จะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง

การฟอกสีฟันครั้งแรก ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟันที่ขาวขึ้น แต่ทั้งนี้ ระดับของความขาวนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย

การฟอกฟัน จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ฟอก

โดยทั่วไป การฟอกฟันจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และการรับประทานอาหาร รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต

ผู้ที่จัดฟัน สามารถฟอกสีฟันได้ แต่ควรต้องรอให้หน้าฟันที่ถูกเจียรออกตอนจัดฟัน คืนสู่สภาพเดิมก่อน ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ฟอกฟันขาวก่อนจัดฟันจะดีที่สุด

ต้องยอมรับว่า การฟอกสีฟันที่คลินิก จะมีประสิทธิภาพดีกว่า จากเครื่องมือที่ใช้ และสารฟอกสีฟัน ที่ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ที่สำคัญ ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ต่อสุขภาพของช่องปาก

  • หมั่นพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
  • ทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันทุกวัน
  • บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยกลั้วน้ำยา และอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
  • ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดสูง เช่น อาหารรสเปรี้ยว อาหารรสจัด
  • หากมีอาการเสียวฟัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ร้อน หรือเย็นจัด
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟัน รวมถึงการงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

การฟอกสีฟันจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ขณะที่ฟอกสีฟัน หรือหลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ แต่อาการเสียวฟัน จะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง

การฟอกสีฟันครั้งแรก ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของฟันที่ขาวขึ้น แต่ทั้งนี้ ระดับของความขาวนั้น จะขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย

การฟอกฟัน จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ฟอก

โดยทั่วไป การฟอกฟันจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และการรับประทานอาหาร รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต

ผู้ที่จัดฟัน สามารถฟอกสีฟันได้ แต่ควรต้องรอให้หน้าฟันที่ถูกเจียรออกตอนจัดฟัน คืนสู่สภาพเดิมก่อน ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ฟอกฟันขาวก่อนจัดฟันจะดีที่สุด

ต้องยอมรับว่า การฟอกสีฟันที่คลินิก จะมีประสิทธิภาพดีกว่า จากเครื่องมือที่ใช้ และสารฟอกสีฟัน ที่ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ที่สำคัญ ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ต่อสุขภาพของช่องปาก

  • หมั่นพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
  • ทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันทุกวัน
  • บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยกลั้วน้ำยา และอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
  • ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดสูง เช่น อาหารรสเปรี้ยว อาหารรสจัด
  • หากมีอาการเสียวฟัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ร้อน หรือเย็นจัด
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟัน รวมถึงการงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์